( -" เร็นจิ ข้าเคยบอกเจ้ารึเปล่าว่าข้าจะปกป้องเจ้า แต่ข้าก็ทำไม่ได้ ข้านี่มัน....เป็นหัวหน้าหน่วยที่ใช้ไม่ได้เลย มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้ายังไม่ได้บอกเจ้าเลยว่า.ข้ารักเจ้ามาก...อาบาราอิ เร็นจิ "
.....* หารู้ไม่ว่า คำว่า " รัก " คำนั้นไม่ได้หมายความว่ารักในตำแหน่งหน้าที่ แต่หมายถึง..." คนรัก " ต่างหาก *.....
" ข้าต้องตามหาเจ้าให้พบจงได้ ไม่งั้นงานนี้มีเคลียร์! "
/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/+/
ชาติต่อมา พวกยมทูตเกิดมาที่โลกมนุษย์หมดทุกตน รวมทั้ง เร็นจิและเบียคุยะด้วย
โดยในชาตินี้ ศุภรุจ(อาบาราอิ เร็นจิในชาตินี้)นักศึกษาที่วิทยาลัยแห่งหนึ่ง เขาเป็นเด็กมีปัญหาตลอดจนกระทั่ง.........
" สวัสดีนักเรียนทุกคนครับ ครูชื่อ บรรเลง แสนสุขศรี หรือจะเรียกว่า'ครูเบียร์'ก็ได้นะครับ^^ "
" กรี๊ดๆๆๆๆ ครูเบียร์หล่อจังเลย ขอเบอร์หน่อยค่า~!! " " เอ่อ...ดูท่าว่าวันนี้ครูได้รับการต้อนรับที่ดีมากเลยนะครับ...^_^' "
" ชิ ตาแก่นี่หล่อตรงไหนกันวะ?มีตาแต่หามีแววจริงๆ " ศุภรุจพูดขึ้นเมื่อเห็นนักเรียนหญิงในห้องมารุมขอเบอร์ครูเบียร์จึงหมันไส้
" หน้าตาไม่ดีก็อย่าไปกัดคนอื่นเลยดีกว่า พวกเราน่ะเจียมตัวไว้เถอะ " ชูวิทย์(ฮิซางิ ชูเฮย์ในชาตินี้)พุดขัดเมื่อเห็นเพื่อนของขึ้นเรื่อยๆจนจะอาลาวาดอยู่แล้ว
" หน้าตาดีก็ไม่แปลกหรอก เพราะเขาเป็นนายแบบนี่นา " อิศรา(คิระ อิสึรุในชาตินี้)พูดเสียงเนือยๆพร้อมกับเอานิตยสารชื่อดังที่มีบรรเลงขึ้นหน้าปกมาให้ทั้งคู่ได้ดู
" โอ้โหเฮะ แม่เจ้าโว้ย ทำไมดูดีจังวะ " " งั้นๆแหละ ไม่เห็นหล่อเลย "
" ผมไม่หล่อตรงไหนเหรอครับ?^^ " " ก็ตรงที่เป็นครูนั่นแหละ....อะ....เฮ้ย!!! "
ทั้งสามคนตกใจเมื่อบรรเลงโผล่มาข้างหลังศุภรุจ แต่บรรเลงก็ยิ้มให้พวกเขา
" ศุภรุจ มากับครูหน่อยได้มั้ยครับ? " " มีธุระอะไรเหรอครับ? "
" มีเรื่อง...จะคุยกับเธอหน่อยได้รึเปล่า? ถ้าไม่ได้ครูก็ไม่ว่าอะไร แต่ว่าไอ้นี่.... " " เอามานะ!! "
บรรเลงหยิบหนังสือกับซีดีอนาจาร(หนังโป๊นั่นเอง)จากกระเป๋าศุภรุจพร้อมกับยิ้มเยาะเหมือนกับสะใจมากที่ได้แกล้งศุภรุจ 555+
" อยากได้ก็มาที่ห้องสิ^^ " " พูดตรงนี้ไม่ได้เหรอ ทำไมเอาของคนอื่นไปแบบนี้ มีมารยาทมั้ยเนี่ย? "
" ไม่ได้ ก็บอกแล้วไงว่าให้มา " " ลองพูดอีกทีซิตาแก่โรคจิต!! "
" พอแล้วน่ารุจ ยอมไปแต่โดยดีเถอะนะเพื่อน " " จะบ้ารึไงวะอิศ ให้เพื่อนเผชิญหน้าคนเดียวได้ยังไงเนี่ย? ไม่ห่วงว่าเพื่อนจะโดนลวนลามเหรอ? "
" ขอโทษจริงๆนะรุจ แต่คราวนี้ฉันไปไม่ได้จริงๆ "
" เออๆ ไม่เป็นไร ฉันไปคนเดียวก็ได้ "
เมื่อไปถึงห้องพักครู บรรเลงทำหน้ายิ้มแย้มเป็นพิเศษพร้อมกับพูดว่า
" เราเป็นแฟนกันได้ป่ะ? " " หา? เมื่อกี้ว่าไงนะ? "
" ฉันถามว่าเราเป็นแฟนกันได้มั้ย แต่เป็นแบบหลอกๆน่ะ " " แล้วทำไมไม่เอาผู้หญิงล่ะ ถึงจะคบแบบหลอกๆก็เถอะ แต่กับผู้ชายนี่ก็..... "
" ขอบใจที่ถาม เพราะฉันไม่อยากแต่งงานใหม่น่ะ " " แต่งงานใหม่? หมายความว่าไง? "
" ตอนนี้ภรรยาฉันเสียมาได้แค่2เดือนแม่ฉันก็จะให้แต่งงานใหม่ ฉันรักแต่ฮิซานะคนเดียวเท่านั้น ฉันขอนายแค่นี้ได้มั้ย? เพราะถ้าเอาผู้หญิงมาเดี๋ยวก็หาคู่ดูตัวให้ใหม่ สู้ให้เป็นผู้ชายน่าจะดีกว่า "
" ถ้าทำแบบนั้นจะไม่โดนหาว่าเป็นเกย์เหรอ? " " เดี๋ยวฉันรับหน้าแทนเธอเอง แต่ขอให้เธอรับปากก่อนแล้วฉันจะคืนของพวกนี้ให้ "
แล้วบรรเลงก็ผายมือไปที่อุปกรณ์ทางเพศที่อยู่ในกระเป๋าศุภรุจ ที่มีทั้งเทียน แส้ และอื่นๆมากมาย
" ตกลงผมรับปาก! " " งั้นเอาตามนี้นะ^^ "
" คุณพ่อคะ ลืมปิ่นโตอีกแล้วค่ะ " " อ้าวเหรอ? ขอบใจมากนะลูเคีย "
" อย่าบอกนะว่านี่..... " " นี่ลูเคีย ลูกสาวของฉันเอง ไหว้แม่ใหม่สิลูก "
" เอ๋?? แม่ใหม่เป็นผู้ชายเหรอเนี่ย? " (นั่นสิ ฉันก็อยากจะถาม/ศุภรุจ)
" สวัสดีค่ะคุณแม่ " " เฮ้ย!!? "
ศุภรุจตกใจมากเมื่อเห็นลูเคีย สาวน้อยลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นลูกสาวบรรเลงที่รุ่นราวครวาเดียวกับศุภรุจมาไหว้ตนในฐานะที่ตนเป็นแม่เลี้ยงแทน
" วันนี้เดี๋ยวพ่อพารุจไปทานข้าวที่บ้านนะ? " " ค่ะพ่อ^^ "
(ยัยนี่ก็ว่าง่ายจังนะ/ศุภรุจ) ศุภรุจงงงันว่าพวกเขากำลังจะทำอะไรกันแน่
" ที่รัก ไปกับผมนะครับ? " " เอ๋? ที่รัก? "
" เอาเป็นว่าตกลงละกันนะ " " อ้าวเฮ้ย!? "
แล้วไม่ทันไร บรรเลงก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ศุภรุจและจับใบหน้าคมนั้นขึ้นมาเชิดพร้อมกับจูบเบาๆไปที่ริมฝีปากแดงระเรื่อของเขา มันทำให้ศุภรุจเวียนหัวและเคลิ้มยิ่งนัก
" โอ้โห!สุดยอดเลยค่ะพ่อ! " " อย่างนี้แหละลูก คนหล่อลีลาเด็ดมันก็ต้องทำใจอะนะ^^ "
(' ตายจริง นี่ลูกฉันมีสะใภ้เป็นผู้ชายได้ไงเนี่ย แถมเป็นเด็กช่างกลฯอีก ไม่ได้การ! ถ้าเป็นแบบนี้บริษัทแย่แน่ๆ' /นี่แม่คิด)
(' เป็นยังไงล่ะครับแม่ เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับไอ้เบียร์ผู้นี้ ฮ่าๆ แค่นี้ยังไม่พอใช่มั้ย? งั้นก็ได้! ผมจะแสดงให้ดูเลยว่าใครจะแน่กว่ากัน ระหว่างผมกับแม่ ' /นี่เบียร์คิด)
(' นี่เราโดนเขาเอี่ยวมาได้ไงเนี่ย รู้สึกว่าที่นี่มีแต่สายตาอำมหิตนะเนี่ยTT_TT '/นี่รุจคิด)
" แม่ครับ งั้นผมขอไปที่ห้องกับแฟนผมก่อนนะครับ "
" แกจะไปไหนยะ? " แม่ถามอย่างสงสัยและมองสายตาชำเลืองไปที่ลูกสะใภ้
" ไปห้องน้ำครับ หรือว่าแม่จะตามไปดูด้วยเหรอครับ?^^ "
" กรี๊ดๆๆๆ.......นี่แกจะไปทำอะไรกันน่ะ เดี๋ยวก่อน! หรือว่าแก.... "
" อยากรู้ก็ไปดูด้วยกันสิครับ เอ...ท่าทางแบบนี้คงไม่อยากดูแหง รุจ เราไปกันเถอะครับ ผมอยากไปที่นั่นจะแย่อยู่แล้ว "
" อะ....อืม....-*- " ศุภรุจเออออตามน้ำ แต่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเบียร์จะพาไปไหน
เมื่อมาถึงห้องนอนของเบียร์
" เฮ้อ~!นึกว่าจะตามมาซะแล้ว "
" แล้วตกลง...นี่คุณต้องการอะไรจากผมกันแน่เนี่ย คุณชอบที่ผมจะโดนแม่คุณมากลั่นแกล้งผมงั้นเหรอ? มันสนุกมากเลยงั้นเหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วทำไมคุณไม่ปฏิ...... "
" ชู่ว....... " เขาปิดปากศุภรุจไม่ให้พูดอะไรไปมากกว่านี้ เพราะอาจล่วงรู้ไปถึงหูคนอื่นได้
" เอาน่า....หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง อย่าพูดอะไรไปมากกว่านี้เลย เอาเป็นว่าฉันจะเล่าให้ฟังทีหลังละกัน แต่ก่อนอื่น........ "
" เอ๊ะ! นี่คุณ อ๊ะ......... "
ศุภรุจถูกบรรเลงผลักไปบนเตียงอย่างแรงพร้อมขึ้นคร่อมบนตัว และโดนนิ้วเรียวของร่างสูงสัมผัสตรงจุดเร้าบนยอดอก ตอนนี้ใบหน้าของร่างบางนั้นมีแสดงอาการเกิดอารมณ์ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
" เฮ้ย! นี่คุณทำบ้าอะไรน่ะ "
" ฉันก็อยากลอง...กับผู้ชายอย่างนายว่ามันเป็นยังไง และยิ่งเป็นนาย ก็ยิ่งน่าสนุก "
" คุณวิปริตรึเปล่าเนี่ย อื้อ!....... "
แล้วริมฝีปากสีกุหลาบก็ถูกปิดด้วยลิ้นอุ่นของร่างสูงเข้าไปในโพรงปาก ตอนนี้ศุภรุจรู้สึกเวียนหัวไปหมดแล้ว ราวกับว่าเคลิ้มจนอยากกลืนกินทุกสิ่งจากร่างสูงมากกว่านี้อีกด้วยซ้ำ แม้ว่าเขาไม่รู้ว่าจากจะเป็นเช่นไรต่อไป
" อา....อ๊ะ!....อื้อ!!!...... " " หืม? อะไรกัน?นี่เป็นครั้งแรกของนายหรอกเหรอ? "
" ถ้าใช่แล้วมันผิดด้วยเหรอ! " แล้วบรรเลงก็ส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มพร้อมกับพูดว่า
" ไม่หรอก ฉันดีใจนะที่คนแรกที่กล้าเคลมและขึ้นคร่อมบนร่างกายของนายจะเป็นฉัน นายยังไม่เคยจริงๆสินะ? "
" อย่านะ! อ๊ะ!!......อื้อ!..... " " กลั้นมันเอาไว้ทำไม ปล่อยให้มันไปเถอะนะรุจ "
" อะ.....อ๊า~!!!!!............ "
ช่วงที่บรรเลงรูดนิ้วและดูดดุนแกนกายของร่างบางจนสุดถึงความยาวของมันนั้น ในหัวของศุภรุจก็มีอดีตชาติของตนนั้นผุดขึ้นมา
" เร็นจิ....ข้าเข้าในตัวเจ้าได้มั้ย? " " อา.....ท่านเบียคุยะ..ข้า......... "
' เอ๋? คนพวกนั้นเป็นใครกันน่ะ? ' ในความคิดของศุภรุจค่อนข้างสับสนมากเลยทีเดียว เพราะขณะนี้ที่เขาอยู่กับบรรเลงแท้ๆ แต่เขากับคิดถึงใครขึ้นมา และที่สำคัญ.......
เบียคุยะกับเร็นจิเป็นใคร?
" รุจ ฉันขอเข้าไปในตัวนายได้มั้ย?..... "
บรรเลงไม่ทันพูดเปล่า พร้อมกับสอดแกนกายของตนไปในช่องทางเบื้องหลังอย่างช้าๆ และอุณหภูมิข้างในตัวที่อุ่นจนร้อนกับบนร่างกายที่ร้อนผ่าวนั้นก็ไม่อาจทำให้ศุภรุจปฏิเสธได้ว่าเขาถูกกระตุ้นจนมีอารมณ์ไปมากแค่ไหน แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังไม่อยากให้บรรเลงหยุดขยับเข้ามาในตัวเลย และอาจจะอยากให้ทำแรงๆและเร็วกว่าเดิมด้วยซ้ำ
" อะ....อ๊ะ!....อ๊า~!!!!!......... "
ขณะนั้นเอง เวลาที่เขากำลังสับสนในสิ่งที่ถูกกระตุ้นอยู่นี้ ในหัวของของเขาก็ยิ่งมีความทรงจำครั้งเก่ามาเยอะกว่าเดิมอีก
" เร็นจิ....อะ...อ้า~!!...... " " ท่านเบีย....คุยะ.........อ๊า~!!!!!!!!.............. "
" อ๊ะ!.....ท่านเบียคุยะ!อ๊ะ!.......อ๊า~!!!!!!! " " รุจ เป็นอะไรไป! นายกำลังเรียกใครอยู่? "
" ฮึก! ท่านเบียคุ.....อะ....อ๊า~!!............ "
ทั้งนี้เขาน่าจะเรียกชื่อของร่างสูงแท้ๆ แต่กลับเรียกชื่อของใครอีกคนที่ไม่มีตัวตนแม้แต่เงาเสียนี่ ในความทรงจำของศุภรุจนั้น ไม่รู้ว่าคนตรงหน้านี้เป็นใครแล้ว เขาเอาแต่เรียกชื่อเบียคุยะ ซึ่งเป็นชื่อของคนที่เขารักในอดีตชาตินั่นเอง
" อะ...ฮึก!อ๊า~!!!........ " " รุจนายเป็นอะไรน่ะ!? ฉันอยู่นี่นะ! "
แล้วสติของศุภรุจก็กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่เรียกชื่อของคนในความทรงจำนั้นมานานพอสมควร เสียงเรียกของบรรเลงทำให้สติของศุภรุจที่หลุดลอยไปในความทรงจำนั้นกลับมาได้ เขารีบเข้าไปโผกอดร่างสูงทันที
" ฮึก!ผมขอโทษ....ที่ไปเรียกชื่อคนอื่นที่ไม่ใช่คุณแบบนั้น "
" เมื่อกี้นี้...นายฝันร้ายเหรอ? " " ครับ ทั้งที่ผมอยู่กับคุณแท้ๆ แต่ผมกลับ.....ฮึก!....ฮือ............... "
" ไม่ต้องร้องนะ ฉันอยู่นี่แล้ว เลิกกลัวนะ..... " " ฮือๆๆๆๆๆๆ................... "
ในตอนนี้ แม้ร่างสูงจะมอบยไออุ่นให้เขามากเท่าใด แต่มันก็ทำให้นึกถึงเบียคุยะมากกว่าเดิมอีก ทั้งที่เพียงพอต่อความต้องการ แต่นั่นกลับทำให้ความทรงจำนั้นผุดขึ้นมามากยิ่งขึ้นอีก
เมื่อกลางดึก บรรเลงมองที่ใบหน้าที่น้ำตาซึมและลูบเบาๆ แต่ทำไมนะ?บรรเลงถึงได้รู้สึกผิดยิ่งกว่าเหมือนกับเขาทำให้ศุภรุจร้องไห้ยังไงยังงั้น
" เมื่อไหร่นายจะจำฉันได้สักที? เร็นจิ! "
หลายสัปดาห์ต่อมา พวกเขาก็เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น แม้จะอยู่ในฐานะครูกับนักเรียน แต่มันก็ไม่มีเส้นกั้นระหว่างนั้นเลยสักนิด เพราะเขาคิดเพียงแต่ว่า....เป็นคนรักกันแบบหลอกๆไปเท่านั้น
ทั้งที่ชีวิตก็น่าจะมีความสุขดี แต่ก็มีบางสิ่งที่ศุภรุจยังไม่เคยรู้
เที่ยงคืนสงัด หมาไม่หอนให้รบกวนใจ พ่อลูกก็ได้คุยกันทุกวันในช่วงเวลานั้น
" ท่านพี่คะ ทำไมไม่บอกเรื่องอดีตชาติให้เร็นจิรู้สักทีคะ? "
" ข้าต้องการให้เขาอยู่อย่างนี้มากกว่า อดีตน่ะไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ไม่ใช่รึ? "
" นั่นก็ใช่ค่ะ แต่ว่า....เขาเรื่มจำได้แล้วนะคะ "
" ข้ารู้แล้วล่ะ! แต่หากเรื่องนี้มันแดงขึ้นมาจะทำเยี่ยงไรเล่า!? "
" ท่านพี่..... "
" ลูเคีย สิ่งที่ข้าทำได้ตอนนี้คือไม่ทำให้เขาเสียใจก็แค่นั้น เมื่อก่อนเขาก็เคยเสียใจเพราะข้ามามากแล้วนะ ข้าอยากเห็นรอยยิ้มของเขา.....มากกว่าเวลาที่เขาร้องไห้เสียอีก "
" ............. "
" เจ้าเข้าใจข้าด้วยเถอะนะ แม้ข้าจะรักฮิซานะมาก แต่ข้าก็ไม่อาจจะลืมเร็นจิได้เลย เพราะงั้น...... "
" เข้าใจแล้วค่ะ ข้าจะไม่ยุ่งอีกแล้ว "
อีกฝ่ายหนึ่งก็รู้สึกถึงบางอย่างที่แปลกไปของเขาจนน่าสงสัย แต่ไม่กล้าถามเขาก็แค่นั้น
" คุณเบียร์น่ะ....พักนี้แปลกไปนะ " " เห...ครูเบียร์เนี่ยนะ? เขาแปลกไปยังไงล่ะ? "
" ไม่รู้สิอิศ ฉันว่าพวกนายคงไม่สังเกตเห็นเห็นหรอก เพราะเวลาอยู่ที่นี่กับที่บ้านมันไม่เหมือนกัน "
" งั้นเหรอ แสดงว่าท่าทางแบบนั้นนายคงเห็นคนเดียวสินะ " " ไม่รู้สินะ....... "
" เอาเป็นว่า หากมีอะไรก็บอกได้นะ ฉันยินดีช่วยเสมอ "
" อืม.....ขอบใจมากนะอิศ "
ความฝันในครั้งนั้น ทำไมมันไม่มีทางลบออกไปจากหัวได้สักทีนะ? หากให้นับล่ะก็....คงจะ2เดือนได้แล้วมั้ง?
ช่วงที่ศุภรุจกำลังคิดอยู่นั้น มือหนาก็แปะลงมาที่หัวและลูบเบาๆอย่างเอ็นดู
" คิดอะไรอยู่เหรอ? " " อะ...คุณเบียร์ "
" มีอะไรรึไงถึงได้เหม่อลอยแบบนี้น่ะ หืม? " " เอ่อ.....ก็เปล่าหรอกครับ "
" คิดอะไรอยู่ก็บอกกันบ้างนะ เพราะพักนี้ดูเหม่อลอยบ่อยมากเลย " " อ่า.....เหรอครับ? แหะๆ...... "
แม้อยากรู้ว่าเขาแปลกไปเพราะเหตุใด แต่ก็ไม่กล้าถามสักที อาจเพราะกลัวก็ได้มั้ง
แล้วเสียงออดเข้าเรียนก็ดังขึ้น มันคงเป็นช่วงเวลาที่ดีหากจะหยุดการสนทนาตอนนี้
" เอ่อ.....ออดดังแล้ว ผมขอขึ้นห้องเรียนก่อนนะครับ " " อื้ม แล้วเจอกันนะ^^ "
อยากถามมานาจนเก็บไว้คิดเองไม่ไหวแล้ว มีหวังปวดหัวตายแน่ คืนนี้แหละ ฉันจะถามเขาให้ได้ ว่าเขาเป็นอะไรกันแน่!
เวลา18.15น. เรื่องที่สามีของตน(?)ดูแปลกไปนั้นมันก็ยังคาใจ แต่ก็ไม่กล้าถามเขาสักที จึงตัดสินใจเดินไปถามลูเคียแบบเลียบๆเคียงๆว่า
" เอ่อ...ลูเคีย " " อะไรเหรอคะ "
" คือว่า....พ่อเธอดูแปลกไปนะ เขาเป็นอะไรรึเปล่า " " กะ...ก็ไม่นี่คะ "
รุจเริ่มเอะใจเมื่อเห็นลูเคียพูดตะกุกตะกัก เพราะปกติพูดเก่งจะตายไป แต่อีกแง่นั้นมันอาจจะไม่มีความลับอะไรก็ได้ เพียงแต่พูดติดอ่างแค่นั้น
" งั้นเหรอ...ขอบใจนะ " " อ้าว จะนอนแล้วเหรอคะ "
" อืม สงสัยว่าฉันรู้สึกไปคนเดียวมั้ง? "
หลังจากนั้นมาประมาณ5ชั่วโมง ศุภรุจก็รอร่างสูงกลับมาเพื่อจะถามความจริง แต่งานนี้ คงเป็นร่างสูงที่จะแปลกใจมากกว่า เมื่อเห็นว่าร่างบางนั้นยังไม่เข้านอนเลย และมารอที่หน้าบันไดในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น
" อ้าว? ยังไม่นอนอีกเหรอ " " คือว่า......ผม.......... "
" หืม? มีอะไรก็พูดมาสิ " ถึงเงียบไปเท่าไหร่ก็คงทำไม่ได้นานกว่านี้อีกแล้ว มีแต่ต้องพูดอย่างเดียวเสียแล้ว
" พวกเราน่ะ....เมื่อก่อนเคยเป็นอะไรกันรึเปล่าครับ " " เอ๋? "
" ทั้งเรื่องเร็นจิและเบียคุยะ คุณรู้เรื่องพวกนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ "
" เมื่อไหร่? อะไรของนาย? " " นี่ผมถามจริงๆนะ! "
" นายนี่ถ้าจะพูดกันไม่รู้เรื่องนะ กลับนอนเดี๋ยวนี้! " " คุณจะปิดผมอีกนานแค่ไหนล่ะ? 3เดือน ครึ่งปี 1ปี หรือตลอดชีวิตล่ะ? "
" อย่าบ้าได้มั้ยรุจ ทำไมมาถามเรื่องอะไรแบบนี้ " " หากคุณไม่รู้อะไร แล้วคุณจะร้อนตัวทำไมล่ะ? "
" ไอ้คำถามเพ้อเจ้อไร้สาระแบบนี้เอาไปถามลูเคียนู่นไป " " ถามคุณที่เป็นต้นเรื่องจะดีกว่ามั้ย? "
" !?...................... " แล้วร่างสูงถึงกับอึ้ง เมื่อโดนศุภรุจถามเรื่องนั้นตรงๆ
" ทำไมล่ะ? คุณคิดว่าผมโง่เหรอ? นึกว่าผมไม่เห็นรึไงที่คุณกับลูเคียคุยเรื่องนี้กันไม่รู้กี่คืนแล้ว ผมไมมีวันนอนหลับง่ายๆหรอกนะ "
" รุจ...นี่นาย..... " " ใช่!คุณคงคิดว่าผมคงไม่ได้ยินแน่ แต่ขอโทษนะ ผมได้ยินพวกคุณคุยกันตั้งแต่วันที่พวกเรามีอะไรกันแล้วล่ะ และที่สำคัญ......... "
" คุณกับลูเคียไม่ได้เป็นพ่อลูกกันเลยแม้แต่น้อย ใช่มั้ย...ลูเคีย? "
ศุภรุจหันไปหาลูเคียที่เดินลงมาจากบันได และก็ยอมผงกหัวยอมรับแต่โดยดี
" คุณไม่ต้องงงหรอกนะ ลูเคียบอกผมหมดแล้วล่ะ " (' มันเอาเวลาไปถามตอนไหนวะเนี่ย? '/เบียร์ )
" ท่านพี่คะ บอกเขาไปเถอะค่ะ.......ว่าเขากับท่านพี่เป็นอะไรกัน " " ลูเคีย....... "
" เอาล่ะ จะบอกผมมาได้รึยัง ว่าเรื่องนี้กับผมมันเกี่ยวกันยังไง และคุณเอาผมมาที่บ้านนี้ทำไม? "
" ใช่ ความจริงแล้วพวกเราเคยเป็นหัวหน้ากับรองหัวหน้ามาก่อน แต่มันผิดที่ฉันเองที่ดันไปรักคนอย่างนาย แถมยัง.....ไปสาบานต่อหน้าหลุมศพนายว่าจะตามหานายให้เจอด้วย "
" หา? เพราะงั้นก็เลย........ " " ไม่ใช่แค่ชาตินั้นหรอก ชาตินี้ก็ด้วย แต่นายคงคิดว่าการกักตัวนายเอาไว้มันเป็นวิธีที่โง่มากๆเลยใช่มั้ย? "
" นี่คุณ..... " " ฉันตอบคำถามนายหมดแล้วล่ะ พรุ่งนี้นายเก็บข้าวของออกไปจากบ้านฉันเลยก็ได้ "
" คุณนี่มันเลวที่สุด! " เพี๊ยะ! แล้วมือบางก็กระแทกเข้าที่ใบหน้าคมอย่างแรงแต่เขาก็ไม่โต้ตอบกลับแต่อย่างไร
" เมื่อพอใจแล้วคุณก็ผลักไสผมออกไปเลยรึไง! ไม่คิดจะรับผิดชอบกันบ้างเลยเหรอ? "
" ............. " " ว่าไงล่ะ? คุณรักผมรึเปล่า? "
" ระ......รัก....... " " หา......ว่าไงนะ? ไม่ได้ยินเลย "
" ฉัน.....รักนาย...... " " เห?.......... "
" ฉันรักนาย พอใจรึยัง!? " " ฮิๆ พอใจแล้วครับ "
แล้วเรื่องนี้ก็ลงเอยที่ว่า พวกเขาก็ได้อยู่ด้วยกัน โดยที่มีความสุขไปทุกๆวันเลยล่ะ