ในเซย์เรเทย์ (ไม่รู้ถูกหรือเปล่า) ณ โซลโซไซตี มีการประชุมของหัวหน้าทั้ง 13 หน่วย ที่ลูกน้องและรองหัวหน้าไม่มีสิทธิ์เข้าร่วม และภายในระยะเวลาที่ประชุมแสนยืดเยื้อและยาวนานกับอากาศที่หนาวเย็น ทำให้หัวหน้าหน่วยที่ 13 อุคิทาเกะ จูชิโร่ ผู้ที่มีสุขภาพไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ร่างกายสั่นระริก หน้าหนาวแบบนี้ หัวหน้าอุคิทาเกะจะเป็นไข้หนักที่สุด เมื่อก้าวเดินออกจากห้องประชุมก็มีอาการดวงตาเหม่อลอยและล้มลง ทันใดนั้น หัวหน้าหน่วยที่ 8 เคียวราคุ ชุนซุย ก็ได้อุ้มร่างของหัวหน้าอุคิทาเกะไปที่ห้องนอนของเขา
เมื่อไปถึงที่ห้อง หัวหน้าเคียวราคุก็จัดการเช็ดตัวจนไข้เริ่มลด
“ ทำไมเจ้าไม่ใส่เสื้อหนาๆล่ะ ทั้งที่วันนี้อากาศหนาวมากแท้ๆ ” “ ก็มันอึดอัดหายใจไม่ออกนี่ ”
“ แต่ยังไงเจ้าก็ต้องใส่นะ ร่างกายเจ้ายิ่งไม่ค่อยแข็งแรงอยู่ ” “ เจ้าน่ะแหละมาดูแลข้าแบบนี้ไม่ลำบากหรือไง ”
“ ถ้าลำบากแล้วจะดูแลเจ้าจนถึงตอนนี้หรือ ”
คำพูดนั้นของเคียวราคุ ทำให้อุคิทาเกะอึ้งไปสักพักและเริ่มหวั่นไหวในตัวของเคียวราคุเข้าไปทุกที
“ ละ..แล้ว เจ้าไม่มีงานของเจ้าทำหรือไง ” “ ว้า.....เจ้าเนี่ยใจร้ายจังนะ อือ ก็ได้ งั้นข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ ”
แล้วเคียวราคุก็เดินจากไป ปล่อยให้อุคิทาเกะนอนอยู่คนเดียว ทั้งที่ในใจของอุคิทาเกะนั้นช่างเอาแต่ใจนัก ที่อยากให้เคียวราคุนั้นดูแล แต่ก็ต้องเกรงใจในการทำงานของเขาที่อยู่ในฐานะหัวหน้าหน่วยเหมือนกัน แต่ทว่าตอนนี้อุคิทาเกะชักไม่แน่ใจแล้วว่า เขาสนิทกับเคียวราคุในฐานะเพื่อนรักกันอยู่หรือเปล่า?
5 ชั่วโมงต่อมา หลังจากการหลับไหลเพราะพิษไข้ เมื่อตื่นมาอีกครั้ง ก็เห็นลูกน้อง 2 คน มานั่งเฝ้าไข้อยู่ข้างๆ ทั้งที่ในใจของเขากลับหวังว่าคนข้างๆเขาน่าจะเป็นเคียวราคุแท้ๆ
“ ท่านหัวหน้าอุคิทาเกะ หลับสบายดีมั้ยครับ ” “ พวกเราเป็นห่วงท่านหัวหน้ามากๆเลยนะคะ ”
“ ขอบใจพวกเจ้ามากนะ ข้าไม่เป็นไรหรอก ”
หลังจากที่ฟื้นตัวขึ้นสักพักแล้ว เขาก็ไปเดินเล่นที่ระเบียงก็เจอเคียวราคุ ในสภาพที่บาดเจ็บเพราะศึกสงคราม เมื่อหน่วยที่ 4 ซึ่งเป็นหน่วยรักษาพยาบาล ก็รีบวิ่งเข้ามาเคียวราคุทันที
ผ่านไป 15 นาที เคียวราคุอยู่ที่ห้องพยาบาล อุคิทาเกะได้ถามหัวหน้าหน่วย 4 อุโนะฮานะ เร็ทสึ ถึงอาการบาดเจ็บของเคียวราคุ
“ ตอนนี้หัวหน้าเคียวราคุเสียเลือดมาก ถือว่าอาการสาหัสพอสมควร คงจะฟื้นตัวได้อีกประมาณสัปดาห์หนึ่งค่ะ ”
“ ท่านหัวหน้าคะ เลือดมีไม่เพียงพอค่ะ ” “ แย่ล่ะสิ ยังขาดอีกกี่คน ”
“ ทั้งหมด 49 คนค่ะ ” “ เจ้าลองไปขอบริจาคเลือดกับยมทูตทั้งหมดซิ ”
“ เลือดไม่พอใช่มั้ย เจ้าให้คนอื่นไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวข้าจะใช้วิถีมารรักษาตัวข้าเอง ”
“ ไม่ได้นะคะ เสียเลือดมากขนาดนี้ แม้แต่วิถีมารก็ใช้ไม่ได้ผลหรอกค่ะ ” “ จริงหรือเนี่ย ให้ตายสิ ”
เคียวราคุพูดอย่างอ่อนแรง และเหมือนกับว่าความตายค่อยๆใกล้เข้ามาหาเขาเกือบทุกที
“ งั้นเจ้าใช้เลือดข้ามั้ย เลือดข้ากรุ๊ปเดียวกับเจ้า ” “ ไม่ได้นะคะ ท่านยิ่งสุขภาพไม่ค่อยดีอยู่ ถ้าท่านขาดเลือดขึ้นมา ท่านอาจจะ......”
“ ในเมื่อข้าบอกว่าจะทำ ก็ต้องทำให้ได้ เข้าใจมั้ย ”
หญิงสาวเงียบไปสักพักและด้วยเวลาที่คับขันและนาทีฉุกเฉินของชีวิตจึงตัดสินใจตอบว่า
“ เราขอเลือดท่านไปตรวจสอบก่อนนะคะ ” และสมาชิกในหน่วย 4 ก็ทำการเจาะเลือดไปตรวจซึ่งผลปรากฏว่าสามารถเข้ากันได้ จึงเตรียมการให้เลือดทันที
“ เจ้าดูแลข้ามาตลอด ตอนนี้ข้าขอใช้คืนบ้าง แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะ ชุนซุย! ”
แม้กระทั่งตอนนี้ พวกเราเป็นเพื่อนกันมานาน แต่ข้าก็ยังไม่ได้บอกความในใจที่แท้จริงกับเจ้า ดังนั้นเจ้าจะตายไม่ได้นะ ได้โปรดเถอะชุนซุย อยู่ฟังข้าก่อนได้มั้ย ฟังความจริงของข้าสักนิด เพราะข้ามีบางอย่างจะบอกเจ้าว่า
ข้า..........รัก..........เจ้า...........
7 ชั่วโมงต่อมา อุคิทาเกะได้นอนบนเตียงข้างๆเคียวราคุ เขาก้าวลงจากเตียงเพื่อไปหาเคียวราคุที่หลับอยู่ อุคิทาเกะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ และก้มลงจูบที่ริมฝีปากหนาอย่างเบาๆ หลังผละจูบนั้นเพียงนิดเดียว ก็โดนมือหนาช้อนมือกดที่ท้ายทอยของอุคิทาเกะและจูบอย่างดูดดื่ม
“ อะ....อื้ม...เคียว...ราคุ นี่เจ้า....... ” “ ทำไมเจ้าเพิ่งจะรู้ตัวตอนนี้ จูชิโร่ ”
“ รู้อะไร? เจ้าไม่รังเกียจข้าหรือ ที่ข้าทำกับเจ้า.....แบบนี้ ”
“ แล้วที่ข้าคอยดูแลเจ้ามาตลอดล่ะ? มันเป็นเพราะอะไร นอกจากว่าข้ากับเจ้าในตอนนี้ ไม่ใช่เพื่อนกันอีกแล้ว หากแต่เป็น........คนรักของข้าต่างหาก ”
“ เอ๊ะ! นี่เจ้า....... ” คำพูดนั้นทำให้อุคิทาเกะรู้สึกดีใจมากจนน้ำตาไหล เพราะไม่นึกว่า เขากับตนจะมีความคิดแบบเดียวกัน........ในฐานะ........คนรัก
“ งั้นเจ้าสัญญากับข้าได้มั้ย ว่าเจ้าจะไม่ทำแบบนี้กับใคร.....นอกจากข้าคนเดียว ” “ ได้เลย เดี๋ยวจัดให้ตามที่เจ้าต้องการ ”